Humility
ความอ่อนน้อมถ่อมตน ..... แก่นแท้ที่มาจากภายใน
คำว่า " อ่อนนอกแข็งใน " เป็นคำเปรียบเทียบ ที่อาจจะคุ้นเคยสำหรับทุกคน ฉะนั้น หากมองเข้าไปในจิตเบื้องลึกของผู้อ่อนน้อมถ่อมตน แท้จริงแล้วเขาคือ ผู้ที่มีความเข้มแข็งทางจิตใจอย่างยิ่ง อดทน และสุขุมลุ่มลึก ด้วยของจริงไม่จำเป็นต้องแสดงออกเพราะมีดีอยู่ในตัวอยู่มาก
ด้วยเหตุนี้ โอกาสของความสำเร็จ ก็มักจะเกิดจากการมีโอกาสดีๆ หลายๆอย่างเข้ามาในชีวิต เพราะว่า การอ่อนน้อมถ่อมตน มักจะเป็นที่เอ็นดูของคนทั่วไป แล้วใครๆ ก็พร้อมที่จะหยิบยื่นมอบโอกาสดีๆให้
บรรดาสรรพสิ่งทั้งหลายที่เป็นไป ล้วนมาจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น สิ่งที่ปรากฏในความรู้สึก ความรู้สึกและความคิด รวมทั้งความอ่อนน้อมถ่อมตน พัฒนามาจากประสบการณ์ในชีวิต คือการเรียนรู้จากเหตุปัจจัยต่างๆ ที่มากระทบ แล้วแปลงความหมายและตีความหมายด้วยความคิด แล้วแสดงออกโดย ทางกิริยา ทางคำพูด เพราะฉะนั้น หากจัดการที่เหตุคือสิ่งที่มากระทบ อย่างรู้เท่าทัน ผลคือ ย่อมเป็นที่รักและเคารพของผู้คนโดยทั่วไป ไม่ว่าจะริเริ่มหรือดำเนินการสิ่งใด ย่อมได้รับความร่วมมือ จนสิ่งเหล่านั้นได้รับผลสำเร็จ
ด้วยเหตุนี้ โอกาสของความสำเร็จ ก็มักจะเกิดจากการมีโอกาสดีๆ หลายๆอย่างเข้ามาในชีวิต เพราะว่า การอ่อนน้อมถ่อมตน มักจะเป็นที่เอ็นดูของคนทั่วไป แล้วใครๆ ก็พร้อมที่จะหยิบยื่นมอบโอกาสดีๆให้
บรรดาสรรพสิ่งทั้งหลายที่เป็นไป ล้วนมาจากเหตุปัจจัยทั้งสิ้น สิ่งที่ปรากฏในความรู้สึก ความรู้สึกและความคิด รวมทั้งความอ่อนน้อมถ่อมตน พัฒนามาจากประสบการณ์ในชีวิต คือการเรียนรู้จากเหตุปัจจัยต่างๆ ที่มากระทบ แล้วแปลงความหมายและตีความหมายด้วยความคิด แล้วแสดงออกโดย ทางกิริยา ทางคำพูด เพราะฉะนั้น หากจัดการที่เหตุคือสิ่งที่มากระทบ อย่างรู้เท่าทัน ผลคือ ย่อมเป็นที่รักและเคารพของผู้คนโดยทั่วไป ไม่ว่าจะริเริ่มหรือดำเนินการสิ่งใด ย่อมได้รับความร่วมมือ จนสิ่งเหล่านั้นได้รับผลสำเร็จ
เริ่มจากภายใน
อนึ่ง การรับรู้ หมายถึง การรู้สึกสัมผัสที่ได้รับการตีความ ให้เกิดความหมายแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือการฝึก การรู้สึกสัมผัส ณ.ปัจจุบันขณะ (ก่อนการแปลความหมาย) รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏในความรู้สึก ตรงๆตามเป็นจริง โดยสักแต่ว่ารับรู้ เช่น เมื่อได้ยินเสียง ก็ให้รับรู้ว่ามันเป็นแค่บางอย่าง รับรู้เฉยๆ ไม่ต้องไปตีความว่ามันคือเสียง เพราะมันเป็นแค่สิ่งที่มากระทบแล้วปรากฏในความรู้สึกเท่านั้นเอง ให้ฝึกเช่นนี้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารู้สึกสัมผัส วางใจอย่างธรรมดาๆ คือไม่จดจ่อเกินไป และก็ไม่ผ่อนจนเกินไปเช่นกัน ฝึกไปเรื่อยๆ วันละเล็ก วันละน้อย จนมีชำนาญ ใจก็จะละเอียด เร็วต่อสิ่งที่เข้ามา ไม่ตกเป็นเหยื่อของอารมณ์หรือสิ่งที่เร้า ทั้งจากภายนอกและภายใน ดังนั้นประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกเช่นนี้คือ
• มีจิตใจอ่อนโยน
• มีกิริยาอ่อนน้อม
• มีวาจาอ่อนหวาน
ดังนั้น ด้วยเพราะมีปัญญาเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง แยกแยะได้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดควรและไม่ควร มีความนุ่มนวลอยู่ภายใน แล้วแสดงออก อย่างมีสัมมาคารวะ พูดจารื่นหู ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและคนในสังคมแวดล้อม เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ได้รับการสนับสนุนจากทีมงาน ความสำเร็จย่อมบังเกิดขึ้น
• มีจิตใจอ่อนโยน
• มีกิริยาอ่อนน้อม
• มีวาจาอ่อนหวาน
ดังนั้น ด้วยเพราะมีปัญญาเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง แยกแยะได้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดควรและไม่ควร มีความนุ่มนวลอยู่ภายใน แล้วแสดงออก อย่างมีสัมมาคารวะ พูดจารื่นหู ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและคนในสังคมแวดล้อม เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ได้รับการสนับสนุนจากทีมงาน ความสำเร็จย่อมบังเกิดขึ้น