Awakening

เมื่อใจตื่น ตัวก็ตื่นโดยธรรมชาติ

การตื่นของใจ คือความระลึกได้ หมายความว่า ในเวลาที่เราจะทำอะไรหรือจะพูดอะไรออกไป เราพึงต้องระลึกอยู่เสมอว่า เรากำลังจะทำอะไรหรือกำลังจะพูดอะไร แต่หากพิจารณาในระดับความรู้ที่เหนือปถุชนธรรมดาทั่วไป ก็คือ การรับรู้สิ่งที่ปรากฏในความรู้สึกและรู้เท่าทันความคิดทุกปัจจุบันขณะอย่างสม่ำเสมอ ไม่ซ้าย ไม่ขวา ไม่เดินหน้า ไม่ถอยหลัง และก็ไม่ได้หยุด มันก็เป็นธรรมดาๆเช่นนั้นเอง นี่คือหลักความเป็นไปของโลก เน้นความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับทางโลก มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง โดยมุ่งเน้นในส่วนที่โลกกำลังดำเนินอยู่ เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับระบบทั้งมวล เมื่อเราอยู่ในดาราจักรทางช้างเผือก ก็ย่อมดำเนินตามระบบของดาราจักรทางช้างเผือก และเมื่อเราอยู่ในโลก ก็ย่อมดำเนินตามระบบของโลก ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ธรรมชาติก็คือระบบ ระบบเล็กอยู่ในระบบใหญ่ ทุกอย่างพัวพันกับระบบ เราจึงต้องรู้และเข้าใจเรื่องระบบอย่างถ่องแท้ และอยู่บนระบบได้อย่างรู้ทันระบบ และดำเนินอยู่ในระบบได้อย่างรู้เท่าทันเช่นกัน ไม่ระแวงกับระบบหากแต่สามารถอยู่ร่วม ในขณะที่ระบบกำลังเปลี่ยนแปลง เราได้อยู่กับธรรมชาติ ได้อย่างเป็นที่เข้าใจว่าทุกอย่างล้วนมีที่มาจากเหตุปัจจัย มันเป็นเช่นนั้น หรือหากมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอก็อาจมีโอกาสพ้นจากระบบได้ในทางที่ถูกต้องเหมาะสม นี่คือ หลักธรรมชาติที่แท้จริง

ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง ของการตื่นตัวตื่นใจอยู่เป็นนิจ เพื่อเป็นการปลูกฝังสติปัญญา นำไปประพฤติปฏิบัติหน้าที่ในชีวิตประจำวัน เพื่อควบคุมการกระทำสิ่งต่างๆให้ไม่บกพร่อง โดยใช้สติสัมปชัญญะแยกแยะเรื่องที่ควรและไม่ควรในการกระทำทั้งปวง โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

คำว่า “ใจ” ในที่นี้ คือใจที่มีสติควบคุมเฝ้าดูแลใจไม่ให้เผลอไผล ซึ่งเรียกว่าใจตื่น ส่วนที่เรียกว่า “ตัว” เป็นผู้ทำหน้าที่แสดงการกระทำต่างๆตามที่”สติ”เป็นผู้สั่งการ หากเปรียบ “ตัว” เป็นรถยนต์ คนขับก็เหมือนสติ เพราะการที่รถยนต์จะวิ่งไปสู่เป้าหมายได้ด้วยความปลอดภัย ก็ขึ้นอยู่กับคนขับ เป็นผู้รู้เท่าทันสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องตื่น(การระลึกรู้) อยู่ในการกระทำหน้าที่ตลอดเวลา เผลอไผลไม่ได้ เมื่อใดขาดสติ ชีวิตก็จะตั้งอยู่ในความประมาท และความประมาทก็เป็นบ่อเกิดแห่งความเสื่อมทั้งหลายในที่สุด

ดังนั้นประโยชน์ที่สำคัญของการตื่นตัวตื่นใจอยู่เป็นนิจก็คือ เป็นเสมือนแผนที่เดินทางของความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ เป็นเครื่องมือในการทำฝันให้เป็นจริง คาดการณ์ล่วงหน้า เตรียมความพร้อม เผื่อเหลือเผื่อขาด มีแผนสำรองเสมอ หรือเพื่อสร้าง
นวตกรรมใหม่ๆ อย่างมีความรับผิดชอบ โดยปราศจากการเบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และสังคมแวดล้อมโดยรวม

Always Prepare For The Next Steps